บทโทรทัศน์. วรพันธ์ รวี
ภาวินี รีบเดินทางมากรุงเทพทันทีที่ได้รับข่าวอาการป่วยของ ศรีกานดา ซึ่งเป็นพี่สาว เธอไม่ได้พบพี่สาวนานหลายปีตั้งแต่เรียนจบ ศรีกานดาเป็นสาวสวย งามทั้งกายและใจ ภาวินีจำได้ว่าวันที่ศรีกานดาเข้าประกวดนางงามประจำจังหวัดและได้ตำแหน่งสาวงามที่สุดของจังหวัดนั้น พ่อของเธอดีใจมากแค่ไหน พ่อเป็นคนที่ชาวบ้านนับถือ ยิ่งศรีกานดานำชื่อเสียงมาให้วงศ์ตระกูล พ่อของเธอก็ยิ่งภูมิใจในลูกสาวคนโตมาก ปีนั้นเป็นปีที่พ่อเธอมีความสุขที่สุด เพราะภาวินีลูกสาวคนเล็กสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพได้ ภาวีนีเข้ามาเรียนได้ไม่นานทางบ้านเกิดเรื่องยุ่งเมื่อศรีกานดาตัดสินใจหนีตาม นพนัยน์ วิศวกรหนุ่มที่มาคุมงานสร้างทางในจังหวัด ทั้งคู่พบกันไม่นานแต่ก็รักกันมาก พ่อของศรีกานดากีดกันทุกทางไม่ให้ลูกสาวพบคนรัก ทว่ายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ไม่มีใครคิดว่าศรีกานดา กุลสตรีที่งามพร้อมจะกล้าหอบผ้าหนีตามผู้ชายต่างถิ่นไปได้ พ่อของเธอเสียใจมาก ทั้งรักทั้งแค้นลูกสาวคนโตถึงขั้นตัดพ่อตัดลูกเด็ดขาด
เวลาผ่านไปก่อนภาวินีเรียนจบไม่นาน ศรีกานดามาพบเธอที่มหาวิทยาลัย ภาวินีพูดไม่ออกเมื่อเห็นพี่สาว ศรีกานดาเปลี่ยนไปมากจนจำแทบไม่ได้ ศรีกานดาเล่าให้น้องสาวฟังว่า หลังจากจดทะเบียนสมรสแล้ว นพนัยน์พาเธอไปกราบ คุณหญิงนวลสมร ผู้เป็นมารดา แต่ทั้งคุณหญิงและ ไฉไลเรือง ซึ่งเป็นน้องสาวนพนัยน์ไม่ยอมรับว่าเธอเป็นภรรยาของนพนัยน์ ซ้ำยังไล่ให้เธอไปอยู่เรือนคนใช้ไม่ยอมให้อยู่บนตึกใหญ่ นพนัยน์เสียใจมากจึงพาเธอตามไปทุกแห่งที่เขาไปทำงาน นพนัยน์รักเธอมาก เมื่อศรีกานดาท้อง นพนัยน์จึงต้องพาเธอกลับมาอยู่บ้านเพราะห่วงเธอและลูกจะได้อยู่ใกล้ ๆ หมอ ส่วนตัวเขาต้องไปทำงานต่างจังหวัด แต่กลับกรุงเทพทุกครั้งที่มีโอกาส ภาวินีกลั้นสะอื้นเจ็บใจแทนพี่สาว เมื่อศรีกานดาเล่าว่าคุณหญิงนวลสมรและไฉไลเรืองร้ายกับเธอแค่ไหน ศรีกานดาบอกว่าเธอเป็นเพียงสะใภ้ทาส ถ้านพนัยน์อยู่ก็จะพอมีความสุขบ้าง แต่เมื่อเขาต้องไปทำงานต่างจังหวัด ศรีกานดารู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น ภาวินีเคยชวนเธอกลับไปอยู่บ้าน แต่ศรีกานดาปฏิเสธ เธอย้ำว่าสามีและลูกอยู่ที่ไหนเธอต้องอยู่ด้วยเสมอ เหตุผลของศรีกานดาเป็นเรื่องที่ภาวินีไม่เข้าใจ สองสาวพี่น้องนิสัยต่างกันมากแม้จะหน้าตาคล้ายกัน ศรีกานดาสวยอ่อนหวาน เรียบร้อยเป็นแม่บ้านแม่เรือน ภาวินีสวยเข้ม ดูเหมือนคนอารมณ์เย็น แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าภาวินีนั้นโมโหร้ายมาก ตั้งแต่เด็กจนโต คนที่ทำให้ศรีกานดาเสียใจ ภาวินีต้องทวงคืนจนเจ็บยิ่งกว่า ตลอดการเดินทางภาวินีภาวนาให้พี่สาวปลอดภัย ทั้งที่รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อถึงกรุงเทพเธอตามไปที่โรงพยาบาลทันที ภาวินีใจสั่นเมื่อเข้าไปในห้องไอซียู เธอพบนพนัยน์นั่งจับมือศรีกานดาด้วยความโศกเศร้า สภาพศรีกานดาที่นอนนิ่ง ลมหายใจแผ่วเบา อุปกรณืทางการแพทย์ระโยงระยางรอบตัวไปหมด ทำให้ภาวินีรู้สึกโกรธแค้นนพนัยน์มาก เธอมองเขาอย่างเกลียดชังก่อนจะขออยู่เฝ้าพี่สาวเอง เธอให้นพนัยน์กลับไปดูลูก ภาวินีอดไม่ได้ที่จะต่อว่าเขาที่ทำให้ศรีกานดาเป็นอย่างนี้ เมื่อถึงบ้านหรือเรือนเล็กหลังบ้าน แม้จะปรับปรุงจนน่าอยู่ แต่เมื่อเทียบกับตึกใหญ่งดงามข้างหน้าแล้วต่างกันโดยสิ้นเชิง นพนัยน์ก้าวขึ้นเรือนภาพ แป๊ะซะ ลูกชายวัยขวบเศษที่เล่นกับ พิม พี่เลี้ยงอย่างไร้เดียงสาทำให้นพนัยน์ต้องเข้าไปอุ้มไว้ เขาทั้งรักและสงสารลูกสุดหัวใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดที่ทิ้งศรีกานดาไว้กับแม่และน้องสาวที่ใจร้ายเหลือทน เขาเล่นกับลูกไม่นานนัก คุณหญิงนวลสมรให้พิมมาตามเขาไปพบบนตึกใหญ่ นพนัยน์เดินขึ้นทางหลังตึกจึงได้ยินเสียงแม่กับน้องสาวพูดถึงศรีกานดาอย่างไม่น่าฟัง แถมยังแช่งให้ตายเสียอีก เขาสงสารภรรยาจับใจ นพนัยน์กลับไปที่เรือนเล็กทันทีโดยไม่ยอมพบคุณหญิงนวลสมร ส่วนภาวินีนั่งเฝ้าพี่สาวจนฟุบหลับอยู่ข้างเตียง เธอกุมมือพี่สาวไว้ตลอดเวลา ดึกมากแล้วเมื่อภาวินีรู้สึกว่าศรีกานดาขยับมือเบา ๆ เธอสะดุ้งตื่นทันที ศรีกานดามองน้องสาวด้วยแววตาห่วงใย ภาวินีดีใจที่พี่สาวรู้สึกตัว เธอบอกศรีกานดาว่าออกจากโรงพยาบาลแล้วเธอจะพาศรีกานดาและลูกกลับบ้านไปให้พ้นจากครอบครัวนี้เสียที ศรีกานดาพูดราวกระซิบว่าฝากลูกด้วย ภาวินีรับปากทันที ศรีกานดายิ้มบาง ๆ ก่อนหลับตาลงอีกครั้ง ส่วนภาวินีเองฟุบหลับตามไปด้วยในไม่นานนัก เธอสะดุ้งตื่นอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่ามือของศรีกานดาเย็นเฉียบ ภาวินีผวาลุกขึ้นทันที อุปกรณ์ทางการแพทย์ส่งเสียงเตือนผิดปกติ ทั้งหมอและพยาบาลเข้ามาทันที ทุกอย่างชุลมุนวุ่นวาย ภาวินีถูกขอให้ออกไปนอกห้อง เธอร้องไห้เสียใจที่สุด สภาพของศรีกานดาทำให้ภาวินีใจหาย เธอได้แต่อธิฐานให้พี่สาวปลอดภัย ทว่าศรีกานดาอาการหนักเกินไปกว่าที่หมอจะช่วยไว้ได้ เธอเสียชีวิตในเช้านั้นเอง เมื่อนพนัยน์พาแป๊ะซะมาร ภาวินีรับหลานมาอุ้ม เธอกอดเด็กชายไว้แน่น และให้นพนัยน์ไปดูศรีกานดาเป็นครั้งสุดท้าย เขารีบเข้าไปในห้องไอซียูทันที นพนัยน์ตรงไปกอดร่างไร้วิญญาณของศรีกานดาด้วยความรักและอาลัยที่สุด ทั้งสงสารและรู้สึกผิดเต็มหัวใจ นพนัยน์พาภาวินีมาพักที่บ้านระหว่างจัดงานศพให้ภรรยา ภาวินีเองอาสาเลี้ยงหลานชายตัวน้อย เธอแทบไม่ปล่อยให้เด็กชายห่างสายตาเลย นพนัยน์น้อยใจแม่และน้องสาวที่ไม่ยอมไปร่วมพิธีศพแม้กระทั่งวันฌาปกิจ เมื่องานศพผ่านไป ภาวินีพูดกับนพนัยน์ว่าเธอจะพาแป๊ะซะกลับไปอยู่กับเธอเพราะศรีกานดาสั่งไว้ก่อนตาย แต่นพนัยน์ไม่ยอม เขาเองก็รักลูกมาก ยิ่งไปกว่านั้นลูกเป็นเหมือนตัวแทนของศรีกานดาด้วย ทั้งคู่เถียงกันอยู่นาน จนในที่สุดภาวินียื่นคำขาดถ้านพนัยน์ต้องการให้ลูกอยู่ด้วยเขาต้องแต่งงานกับเธอ จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมาย เธอจะยอมอยู่ที่นี่เลี้ยงหลานในฐานะแม่แทนศรีกานดา ส่วนเขาและเธอผูกพันกันเพียงนิตินัยเท่านั้น วันใดที่นพนัยน์แต่งงานใหม่เธอจะหย่ากับเขาและพาแป๊ะซะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด และเขาจะหมดสิทธิ์ในการดูแลแป๊ะซะอีกต่อไป ภาวินีอึ้งเมื่อนพนัยน์ตอบตกลงทันที เขารักลูกชายมาก ทั้งรักและห่วง ตอนนี้คนที่เขามั่นใจว่าจะดูแลเด็กชายได้ดีที่สุดคือภาวินี ส่วนตัวเขายังติดงานที่ต่างจังหวัดซึ่งกันดารเกินกว่าจะรับลูกไปอยู่ด้วย เขาไม่ไว้ใจแม่และน้องสาวเขาอีกแล้ว คุณหญิงนวลสมรและไฉไลเรืองโกรธจนพูดไม่ออกเมื่อนพนัยน์มาบอกในวันหนึ่งว่าเขาแต่งงานกับภาวินีแล้ว เธอกับลูกจะอยู่ที่เรือนเล็กเหมือนเดิม ในช่วงเลาที่เขาต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดและจะขอย้ายกลับมากรุงเทพเร็ว ๆ นี้ นพนัยน์กลับไปทำงานสายวันนั้นเอง คุณหญิงให้พิมมาตามเธอไปพบ แต่ภาวินีไม่ไปแถมยังบอกอีกว่าถ้าอยากพบเธอก็ลงมาที่เรือนนี้ได้ทุกเวลา พิมดีใจที่ภาวินีเข้มแข็งกว่าพี่สาวมาก พิมรักและสงสารศรีกานดาที่ถูกใช้งานยิ่งกว่าคนใช้อย่างเธอเสียอีก ทำงานหนัก ถูกดุด่าไม่เว้นวัน แต่ศรีกานดาไม่เคยบ่นจนล้มป่วย พิมกลับไปบอกคุณหญิงทันที เธอมองคุณหญิงและไฉไลเรืองที่โกรธแทบคลั่งอย่างสะใจ พิมใจหายเมื่อเห็นสองแม่ลูกลงไปที่เรือนเล็ก พิมรีบวิ่งไปเตือนภาวินีให้ระวังตัวอย่างห่วงใย แต่ภาวินีกลับยิ้นเย็น แววตาเหี้ยมอย่างน่ากลัว เธอเองรอเวลานี้มานานเช่นกัน ดังนั้นเมื่อคุณหญิงนวลสมรและไฉไลเรืองมาถึงเริ่มด่าทออาละวาดจึงโดนภาวินีตอบโต้อย่างไม่เกรงใจ ไฉไลเรืองปราดเข้าไปจะตบหน้าภาวินี เธอเข้าใจว่าภาวินีจะอ่อนเหมือนศรีกานดา ทว่าตรงกันข้าม มือที่เงื้อง่าของไฉไลเรืองถูกภาวินีจับบิดอย่างแรงและผลักตัวทุ่มไฉไลเรืองกระแทกพื้นอย่างแรง ไฉไลเรืองร้องกรี๊ดทั้งเจ็บทั้งอาย ภาวินีมองอย่างสะใจก่อนจะบอกว่าเธอเป็นนักกีฬายูโดสายดำและยิงปืนแม่นมาก ถ้าทั้งคู่จะมาที่นี่มาระรานเธออีกเจอดีกว่านี้แน่ นพนัยน์กลับมาจากต่างจังหวัด คุณหญิงนวลสมรและไฉไลเรืองฟ้องใส่ร้ายภาวินีและให้เขาไล่เธอไปจากบ้าน แต่นพนัยน์กลับทำให้ทั้งคู่เจ็บใจมากขึ้นเมื่อเขาย้ำว่าเขาไม่ไปไหน และไม่ให้ใครพาลูกเขาไปไหนเด็ดขาด ภาวินีเป็นภรรยาเขาต้องอยู่ที่นี่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เพราะคุณหญิงกับไฉไลเรืองลงไปหาเรื่องเองแท้ ๆ ถ้าต่างคนต่างอยู่ก็ไม่มีเรื่อง นพนัยน์กลับเรือนไปแล้วสองแม่ลูกยังคลั่งแค้นไม่หยุด คุณหญิงนวลสมรกับไฉไลเรืองติดต่อ ลลิตา สาวสวย โฮโซ อดีตคู่หมายของนพนัยน์ให้มาช่วยอีกคน ลลิตานั้นเคยเสียใจเพราะศรีกานดามาแล้ว คราวนี้เธอจึงยอมตกลงมาช่วยกำจัดภาวินีอีกคน ลลิตารักนพนัยน์มานาน แต่เขาเห็นเธอเป็นน้องสาวเท่านั้น ลลิตามั่นใจในความสวยของตัวเองว่าต้องชนะใจนพนัยน์สักวัน เธอจึงมาอยู่กับคุณหญิงนวลสมรระหว่างที่ คุณหญิงผองจิต ซึ่งเป็นมารดาไปต่างประเทศ ลลิตามาในช่วงเวลาที่นพนัยน์ได้ย้ายมากรุงเทพแล้ว เธอพยายามหว่านเสน่ห์ออดอ้อนนพนัยน์ต่อหน้าภาวินีเพื่อยั่วให้หญิงสาวโกรธ ทว่าลลิตากลับคลั่งเสียเองเมื่อภาวินีพูดจาอ่อนหวานกับนพนัยน์เป็นพิเศษ เธอสงสารลลิตาที่อยากเป็นเมียเขาเหลือเกินแม้จะเป็นเมียน้อยก็ตาม นพนัยน์ดีใจที่ภาวินีเข้มแข็ง สู้ กับเรื่องบ้า ๆ ในบ้านได้ เขาเฝ้ามองภาวินีเลี้ยงแป๊ะซะเงียบ ๆ ภาวินีเลี้ยงเด็กชายราวกับลูกไม่ใช่หลาน เวลาผ่านไปยิ่งใกล้ชิดภาวินีก็ยิ่งทำให้นพนัยน์แปลกใจ เธอดูเหมือนกระด้าง เย็นชา แต่ก็เป็นแม่บ้าน แม่เรือน ทำกับข้าวอร่อย ฝีมือไม่ผิดศรีกานดาเลย เขาชอบดูเวลาเธอเผลอตัวเล่นกับแป๊ะซะ ภาวินีจะน่ารัก อ่อนโยน ไม่มีมาดดุเข้ม ๆ อีกเลย วันหนึ่ง ถมทวี เพื่อนชายคนสนิทของภาวินีมาเยี่ยมเธอที่บ้าน ถมทวีเคยรักกับศรีกานดา เมื่อศรีกานดาแต่งงานไปเขาก็มีภาวินีคอยปลอบใจ จนที่มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน แต่แล้วภาวินีกลับแต่งงานกับพี่เขยตัวเอง ถมทวีตามมาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วง เขารู้ว่าภาวินีเป็นคนมีเหตุผล และรักพี่สาวมาก การมาของถมทวีทำให้นพนัยน์หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเห็นรูปถมทวีบนโต๊ะหัวเตียงของภาวินี เขาหึงเธอโดยไม่รู้ตัว แต่ภาวินีไม่เคยทำอะไรเสียหาย เมื่อเขาถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับถมทวี ภาวินีกลับตอบอย่างมั่นใจว่า ทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้ว เธออยู่กับปัจจุบัน และรอวันที่เขาแต่งงานใหม่เธอพร้อมจะพาหลานไปจากที่นี่ ภาวินีไม่รู้ว่านพนัยน์ไม่เคยรักลลิตาเลย เขาระวังตัวมากเมื่อต้องอยู่กับเธอตามลำพัง วันหนึ่งถมทวีมารับภาวินีและแป๊ะซะไปซื้อของ ระหว่างทางทั้งคู่เห็นไฉไลเรืองนั่งรถออกจากโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งพร้อมผู้ชายคนหนึ่ง ภาวินีสังเวชใจและอยากรู้ว่าถ้าคุณหญิงนวลสมรรู้เข้าจะว่าอย่างไร วันหนึ่งคุณหญิงนวลสมรและไฉไลเรืองตัดสินใจใช้แผนทรมานเหมือนศรีกานดา แต่เพียงแค่อาหารเย็น ภาวินีย้อนรอยอย่างเจ็บแสบ ไฉไลเรืองทนไม่ไหวเธอวางแผนให้ ทรัย หนุ่มหล่อไฮโซคนรักหนุ่มหลอกภาวินีเข้าโรงแรมเพื่อให้นพนัยน์เข้าใจผิด ทว่าภาวินีกลับทำให้ทรัยกลัวเธอ เมื่อภาวินีพูดจริงจังว่าเธอสู้เต็มที่แน่นอน และพร้อมเป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ถ้าทรัยไม่พาเธอออกไปจากที่นี่ สีหน้าแววตาของภาวินีทำให้ทรัยต้องยอม และไม่กล้ายุ่งกับเธออีก เขากลับสนใจลลิตาแทน แล้ววันหนึ่งทรัยหลอกลลิตาเข้าโรงแรมจนได้ เธอตกใจมากสู้สุดฤทธิ์แต่ทรัยชกท้องเธอจนหมดสติ ก่อนที่ลลิตาจะเสียใจไปทั้งชีวิต ถมทวีซึ่งผ่านมาและเห็นทรัยกับลลิตา เขาตามไปได้ยินเสียงร้องของลลิตา จึงเข้าไปช่วยไว้ทัน เขาชกทรัยจนต้องหนีไป ถมทวีนั่งรอจนลลิตาฟื้นขึ้นมา เธอช็อคและเข้าใจว่าถมทวีทำร้ายเธอ กว่าจะพูดกันรู้เรื่องถมทวีอ่อนใจเต็มที เขาพาเธอไปส่งที่บ้าน ลลิตาหมดฤทธิ์สำนึกดีกลับมาจนถมทวีเริ่มสนใจเธอ เขามาเยี่ยมเธอบ่อย ๆ จนผูกพันกันมากขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นไปด้วยดี ส่วนไฉไลเรืองทำให้คุณหญิงนวลสมรเสียใจเมื่อรู้ว่าเธอปล่อยตัวไปกับทรัย และไม่คิดจะแต่งงานกับเขาด้วยซ้ำ เรื่องวุ่นวายเมื่อไฉไลเรืองไปฮ่องกงกับทรัยและถูกจับเพราะลักลอบขนยาเสพติด ทรัยหลอกไฉไลเรืองให้หิ้วกระเป๋าบรรจุยาโดยไม่รู้ตัว ทั้งคู่ถูกจับที่ฮ่องกง หนังสือพิมพ์ลงข่าวละเอียด คุณหญิงนวลสมรเสียใจจนล้มศีรษะฟาดพื้นอย่างแรง คุณหญิงป่วยหนักเป็นอัมพาต ขณะที่นพนัยน์ยุ่งเรื่องไฉไลเรือง ภาวินีเข้ามาช่วยดูแลคุณหญิงนวลสมร เธอพูดน้อย แต่ดูแลปรนนิบัติคุณหญิงด้วยความเมตตา สงสาร ภาวินีอ่อนโยน จริงใจ จนคุณหญิงละอายใจ เธอยอมแพ้น้ำใจภาวินี และเสียใจที่ทำร้ายศรีกานดาจนตรอมใจตาย เวลาผ่านไปทรัยถูกดำเนินคดี ส่วนไฉไลเรืองได้แต่คลุ้มคลั่ง นพนัยน์หาทางช่วยเหลือจนโทษหนักเป็นเบา แต่เธอต้องจำคุกอยู่ดี เรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เขารักภาวินีโดยไม่รู้ตัว กว่าจะรู้เขาก็รักเธอมากเหลือเกิน ในคืนที่ถมทวีแต่งงานกับลลิตา เมื่อกลับจากงานแต่งงาน นพนัยน์ตัดสินใจสารภาพรักกับภาวินี เขาบอกเธอว่าเขาไม่เคยลืมศรีกานดา แต่ภาวินีคือตัวจริงในวันนี้ แม้เธอไม่พูดอะไรแต่แววตาที่อ่อนหวานของเธอบอกเขาได้มากกว่าคำพูด นพนัยน์ดึงเธอมากอดแนบอก เขาสัญญาว่าจะดูแลเธอให้ดีที่สุด ภาวินีซุกตัวในอ้อมกอดเขา แขนของเธอกอดตอบเขาทำให้นพนัยน์ยิ้มอย่างมีความสุข ภาวินีมีวิธีบอกรักเขาอย่างอบอุ่น อ่อนหวาน น่ารักที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น